MotoGP อนุญาตใช้ "Stability Control" อย่างเป็นทางการ

การแข่งขัน MotoGP 2025 กลับมาอีกครั้งหลังพักเบรกฤดูร้อน โดยสนามแรกของครึ่งหลังซีซันจะจัดขึ้นที่ Red Bull Ring, ออสเตรีย และนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเทคโนโลยีในรายการ เมื่อฝ่ายจัดการแข่งขัน (Dorna) และสมาคมผู้ผลิต MSMA อนุญาตให้ใช้ Stability Controlเป็นครั้งแรกภายในระบบ ECU กลาง

ระบบ ECU กลางถูกใช้ใน MotoGP มาตั้งแต่ปี 2016 โดยอนุญาตให้ใช้ Traction Control ควบคุมการลื่นไถลในแนวตรง แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ Stability Control เนื่องจากข้อจำกัดด้านความเท่าเทียมกัน เทคโนโลยี และต้นทุน จนกระทั่งปี 2023 ECU ได้รับการอัปเดตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์ 6 แกน (6-axis IMU) เพื่อควบคุมเสถียรภาพของรถในขณะเอียงมากได้อย่างแม่นยำ

เทคโนโลยีนี้ถูกทดสอบอย่างลับ ๆ ตั้งแต่ช่วงพรีซีซัน โดยใช้ซอฟต์แวร์ ECU รุ่นใหม่ในทีมทดสอบของผู้ผลิตหลักทั้งหมด ซึ่งรวมถึง Aprilia และทีมซาเทลไลต์ Trackhouse ที่ Ai Oguraสังกัดอยู่ กรณีนี้นำไปสู่เหตุการณ์ใน ArgentinaGP เมื่อต้นปี ที่ Ogura ถูกตัดสิทธิ์จากอันดับ 8 หลังตรวจพบว่าใช้ซอฟต์แวร์ ECU รุ่น V21 b102 ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติ และมีฟังก์ชัน Stability Control ติดอยู่ แม้ทีมจะยืนยันว่าไม่ได้ใช้งานจริงก็ตาม

Stability Control แตกต่างจาก Traction Control ตรงที่สามารถวัดมุมเอียง (lean angle) ปริมาณการสไลด์ด้านข้าง และการเคลื่อนไหวแบบ pitch ของตัวรถ เพื่อคำนวณการตัดกำลังเครื่องยนต์อย่างแม่นยำ ป้องกันการเสียการควบคุมและอุบัติเหตุประเภท Highside ซึ่ง Traction Control เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ดีในสถานการณ์ที่รถเอียงมาก

นักแข่งทดสอบอย่าง Pol Espargaró (KTM) และ Jack Miller (Yamaha) ต่างให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ระบบควบคุมกำลังมีความแม่นยำมากขึ้นและลดพฤติกรรม “ตัดกำลังแบบกะทันหัน” ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้

Dorna ระบุว่า การนำ Stability Control มาใช้เป็นการยกระดับความปลอดภัยใน MotoGP โดยระบบนี้พัฒนาร่วมกับผู้ผลิต ECU อย่าง Marelli และผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ใน MSMA

การมีพารามิเตอร์การตั้งค่าเพิ่มขึ้นหนึ่งรายการที่สำคัญเช่นนี้ อาจไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังส่งผลต่อความเร็วและสไตล์การขับของนักแข่งอีกด้วย การปรับใช้ระบบนี้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นโจทย์สำคัญของทีมวิศวกรในทุกทีมตั้งแต่สนามนี้เป็นต้นไป

ภาพประกอบ: © Marelli / MotoGP